องุ่นไชน์มัสแคท อย.แจงสารตกค้าง อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
อย.แจงสารตกค้าง “ องุ่นไชน์มัสแคท ” อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย บริโภคได้
อย. แจงสารตกค้าง “องุ่นไชน์มัสแคท” มีเพียง 1 ตัวอย่างพบคลอร์ไพริฟอส สารในกลุ่มวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 กฎหมายห้ามใช้ ส่วนอีก 23 ตัวอย่างมีสารปนเปื้อนจริง แต่ไม่เกินเกณฑ์ความปลอดภัยที่กำหนด หากล้างถูกวิธีสามารถรับประทานได้ ตามที่เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สุ่มตรวจ องุ่นไชน์ มัสแคท 24 ตัวอย่าง ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยสุ่มตรวจสารเคมีเกษตรมากกว่า 400 ชนิด พบสารเคมีเกษตรตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากถึงร้อยละ 95.8 โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ยกระดับการเฝ้าระวังความปลอดภัยผักผลไม้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคนั้น
ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เปิดเผยว่า จากข่าวที่ระบุพบมีการใช้สารกำจัดศัตรูพืช 50 รายการใน 24 ตัวอย่าง โดยข้อเท็จจริงแล้วผลการตรวจพบว่ามีสารกำจัดศัตรูพืช 36 รายการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมีความปลอดภัย ส่วนสารกำจัดศัตรูพืช อีก 14 รายการ เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่ระดับสากล ไม่ได้จัดอยู่ในรายการเฝ้าระวัง เนื่องจากไม่มีข้อมูลการก่ออันตราย แต่จะมีการกำหนดค่ามาตรฐานที่ไม่เกิน 0.01 ppm ซึ่งผลการตรวจพบเกินเพียงเล็กน้อย จึงสามารถรับประทาน องุ่นไชน์มัสแคท ได้ แต่ควรล้างให้ถูกวิธีเพื่อลดสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างดังกล่าว
ล้างให้ถูกวิธี..กินได้
ทั้งนี้ กรณีล้างด้วยน้ำเปล่า ให้แช่ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหล ถูลูกองุ่นไปมาเบาๆ ล้างผ่านน้ำสะอาดไหลซ้ำอีกไม่น้อยกว่า 30 วินาที กรณีล้างด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู/เบคกิ้งโซดา) ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา ต่อน้ำสะอาด 4 ลิตร แช่ให้ท่วมองุ่น นาน 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด กรณีล้างด้วยน้ำเกลือ ผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ให้ท่วมองุ่น 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สารปนเปื้อนไม่เกินค่าความปลอดภัย
เลขาธิการ อย. กล่าวอีกว่า สารปนเปื้อน 36 รายการที่ตรวจพบนั้น อยู่ในค่าที่ไม่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย หมายความว่า พบจริงแต่อยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย ส่วนกรณีที่ระบุว่าพบสารปนเปื้อนที่มีการดูดซึมเข้าไปในเนื้อองุ่นไชน์ มัสแคท แล้วล้างสารออกยากนั้น ข้อเท็จจริง คือ สารบางชนิดเป็นสารที่ถูกใช้ในระหว่างการปลูก ทำให้ต้นไม้ดูดซึมสารเข้าไปเพื่อเป็นอาหาร แต่ไม่ได้หมายถึงว่าสารนั้นดูดซึมเข้าไปในผลไม้ ดังนั้น การล้างผลไม้ก่อนรับประทานตามวิธีที่ถูกต้อง ก็จะสามารถทานได้
การตรวจสอบพบว่า 95.8% ของตัวอย่าง องุ่นไชน์มัสแคท หรือ 23 จาก 24 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด แบ่งเป็น 2 กรณี
- องุ่น 1 ตัวอย่าง พบสารคลอร์ไพริฟอสซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ทั้งนี้ตามกฎหมายต้องตรวจไม่พบเนื่องจากยกเลิกค่า MRL แล้ว
- องุ่นอีก 22 ตัวอย่างพบสารพิษตกค้าง 14 ชนิด เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต (สารพิษตกค้างที่ไม่มีค่า MRL ตามกฎหมายกำหนดให้พบได้ไม่เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต 0.01 mg/kg)
ทั้งนี้ มีการพบสารพิษตกค้างทั้งหมด 50 ชนิด พบว่า…
- เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จำนวน 26 ชนิด
- เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (ยกเลิกการใช้ในประเทศไทย) จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ Chlorpyrifos และ Endrin aldehyde
- เป็นสารที่อยู่นอกบัญชีวัตถุอันตรายมากถึง 22 ชนิด ซึ่งเป็นสารที่ยังไม่มีการประเมินใดๆ ภายใต้กฎหมายไทย
ข่าววันนี้ จากสารพิษตกค้าง 50 ชนิด มีสารประเภทดูดซึม (Systemic pesticide) 37 ชนิด หรือคิดเป็น 74% ของสารพิษตกค้าง โดยสารกลุ่มนี้มีโอกาสตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อขององุ่น ซึ่งการล้างสารกลุ่มนี้ออกจากเนื้อเยื่อพืชคงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย
ข้อมูลข่าว และ รูป